ราคาน้ำมัน WTI ลดลงหลังจากที่การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 พ.ค. พุ่งขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 480,000 บาร์เรล
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 พ.ค. ในเวลา 21.30 น.คืนนี้ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 450,000 บาร์เรล สู่ระดับ 396 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันคาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 550,000 บาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 650,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.5%
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตากรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ได้สั่งให้มีการตรวจสอบบริษัทน้ำมันหลายแห่ง รวมถึงรอยัล ดัทช์ เชลล์, บีพี, สแตทออยล์ และแพลทส์ เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าบริษัทเหล่านี้อาจจะปั่นราคาน้ำมัน โดยมีรายงานว่าคณะกรรมการอีซีได้บุกเข้าไปตรวจสอบบริษัทเหล่านี้ใน 3 ประเทศ