ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลง 54 เซนต์ หลัง API เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday May 30, 2013 20:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ค. ร่วงลง 54 เซนต์ แตะที่ 92.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากหลังจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ API ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยด้านพลังงานของเอกชนสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ค. เพิ่มขึ้น 4.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวได้ดีในระดับหนึ่ง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/2556 ในวันนี้ โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาสแรกขยายตัว 2.4%

นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ค.ในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะร่วงลง 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 650,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 250,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.4%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยนักวิเคราะห์จากบริษัท ฮุสเซนี เอนเนอร์จี คาดการณ์ว่าโอเปคจะคงโควต้าการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากความต้องการน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอีกในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านั้น จะช่วยพยุงราคาน้ำมันเอาไว้ได้

นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีปิโตรเลียมและทรัพยากรสินแร่ของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและสมาชิกรายใหญ่สุดของโอเปคกล่าวว่า ราคาน้ำมันในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมทั้งสำหรับผู้ผลิตและผู้ใช้น้ำมัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ