สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั่วโลกลงสู่ระดับ 2.2% ในปีนี้ จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาว่า จะขยายตัว 2.4% เนื่องจากเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ รวมถึงจีนและบราซิล ชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 มิ.ย.พุ่งขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล แตะที่ 393.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 122.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 950,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่ง 2.7 ล้านบาร์เรล แตะที่ 221.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 บาร์เรล