สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 98.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 106.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการร์ซีเรีย โดยมีรายงานว่า สหรัฐวางแผนที่จะเพิ่มยุทธปัจจัยในการสู้รบให้กับกลุ่มฝ่ายค้านในซีเรีย เพื่อตอบโต้รัฐบาลซีเรียที่ใช้อาวุธเคมี หลังจากเจ้าหน้าที่ของสหรัฐระบุว่า กองกำลังทหารของรัฐบาลซีเรียได้ใช้สารไซรินในการจัดการกับกลุ่มกบฎ แม้ว่ายังใช้ในปริมาณที่ไม่มากนักก็ตาม
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวประกาศว่า จากการสืบสวนของสหรัฐยืนยันว่ากองกำลังของรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมี ซึ่งเป็นการข้าม “เส้นตาย" ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำหนดเมื่อปีที่แล้วว่าจะกระตุ้นให้สหรัฐจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
นักลงทุนกังวลว่า การที่สหรัฐตัดสินใจส่งอาวุธและยุทธปัจจัยทางทหารไปสนับสนุนกลุ่มฝ่ายค้านในซีเรียนั้น อาจจะก่อให้เกิดการเผชิญหน้าที่รุนแรงในซีเรีย และอาจจะนำไปสู่ภาวะติดขัดด้านการลำเลียงน้ำมันในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ผลิตน้ำมันเป็นจำนวนมาก
ผลสำรวจของแกลลัพระบุว่า ชาวอเมริกันกว่าครึ่งไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของทำเนียบขาวในการสนับสนุนด้านอาวุธแก่กลุ่มกบฏในซีเรียท่ามกลางสงครามกลางเมืองที่รุนแรงภายในประเทศ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ค. เพราะได้รับแรงผลักดันจากจำนวนที่อยู่อาศัยสำหรับหลายครอบครัวที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างหดตัวลงเล็กน้อย ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 มิ.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลงราว 650,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 450,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 350,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจจะเพิ่มขึ้น 0.4%