สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ดิ่งลง 6.5% แตะที่ 1,285 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี เมื่อเวลาประมาณ 20.45 น.ตามเวลาไทยในวันนี้
สัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักหลังจากเบอร์นันเก้ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมระยะเวลา 2 วันเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) ว่า เฟดจะเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้
เบอร์นันเก้กล่าวว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้านั้นบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือชะลอกการทำ QE ภายในปีนี้ และหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็จะยังคงลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และจะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานขั้นต้นในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 มิ.ย.เพิ่มขึ้น 18,000 ราย สู่ระดับ 354,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นสู่ระดับ 340,000 ราย
ทั้งนี้ เฟดจับตาดูข้อมูลในตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิด โดยในแถลงการณ์ภายหลังการประชุมล่าสุดเมื่อวานนี้ เฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเผชิญความเสี่ยงกับภาวะขาลง ขณะที่ตลาดแรงงานซบเซาลงนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา โดยอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก
นักวิเคราะห์ของยูบีเอส เอจี ในกรุงลอนดอน คาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจจะร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าราคาทองจะยืนอยู่ที่ระดับ 1,425 ดอลลาร์/ออนซ์ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำในระยะเวลา 3 เดือน ลงมาอยู่ที่ระดับ 1,350 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ และยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำในปี 2556 ลงสู่ระดับ 1,440 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์