ผลผลิตในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 และเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2553 เป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน
เจ้าหน้าที่สหพันธ์กล่าวว่า "การที่เงินเยนอ่อนค่าลงช่วยทำให้การส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพิ่มขึ้น ขณะที่อุตสาหกรรมการก่อสร้างมีแนวโน้มที่สดใสในเขตเมืองหลวงอย่างโตเกียว ซึ่งช่วยผลักดันภาคการผลิตเหล็ก"
สหพันธ์ระบุ ผลผลิตต่อวันในเดือนพฤษภาคมนั้น เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 1.6%
ผลผลิตเหล็กธรรมดาสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่หลากหลาย อาทิ อุตสาหกรรมผลิตโครงรถยนต์ เพิ่มขึ้น 5.9% แตะที่ระดับ 7,486,000 ตัน เนื่องจากการส่งออกที่คึกคัก ซึ่งมากกว่าปริมาณผลผลิตของปีก่อนติดต่อกัน 3 เดือน
สหพันธ์ระบุว่า ผลผลิตเหล็กพิเศษสำหรับผลิตชิ้นส่วนรถยนต์กลับลดลง 1.0% แตะที่ระดับ 2,137,000 ตัน นับเป็นสถิติที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 หลังสิ้นสุดโครงการให้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลสำหรับการซื้อรถยนต์อีโคคาร์