ราคาน้ำมัน WTI เดินหน้าต่อ หลังโรงกลั่นสหรัฐเพิ่มกำลังการผลิต, ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมจีนสูงขึ้น

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 27, 2013 19:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ปรับตัวขึ้น 64 เซนต์ หรือ 0.7% แตะที่ 96.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อนขยับมาอยู่ที่ 95.73 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 13.00 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ หลังจากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐได้เพิ่มการกลั่นน้ำมันดิบสู่อัตราสูงสุดในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากผลกำไรในภาคอุตสาหกรรมของจีนที่เพิ่มสูงขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบเดินหน้าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 จากระดับปิดเมื่อคืนนี้ที่ 95.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 มิ.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 18,000 บาร์เรล แตะที่ 394.1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.65 ล้านบาร์เรล แตะที่ 225.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.5 7 ล้านบาร์เรล แตะที่ 123.2 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.9% แตะที่ 90.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2555

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะเพิ่มขึ้น 850,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%

ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ภาคอุตสาหกรรมจีนมีการขยายตัวของผลกำไรที่แข็งแกร่งในเดือนพ.ค. โดยผลกำไรพุ่งขึ้น 15.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 4.7055 แสนล้านหยวน

ผลกำไรที่ขยายตัวของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของจีน หรือบริษัทที่มีรายได้ต่อปีกว่า 20 ล้านหยวน (3.22 ล้านดอลลาร์) นั้น นับเป็นสัญญาณบวกสำหรับเศรษฐกิจจีน ซึ่งได้เผชิญกับภาวะชะลอตัวมาหลายไตรมาส โดยจีนเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ