สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มิ.ย. ลดลง 9,000 ราย มาอยู่ที่ 346,000 ราย หลังจากที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้า
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ 345,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 มิ.ย. ถูกปรับทบทวนขึ้นเป็น 355,000 ราย เพิ่มขึ้น 19,000 จากรายงานก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. เพราะได้ปัจจัยหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น นับเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสนี้จะขยายตัวขึ้น เพราะการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% หรือสองในสามของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่ร่วงลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 หรือในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. หลังจากที่ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย.
สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 มิ.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 18,000 บาร์เรล แตะที่ 394.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.65 ล้านบาร์เรล แตะที่ 225.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.5 7 ล้านบาร์เรล แตะที่ 123.2 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.9% แตะที่ 90.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2555