สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 1.64 ดอลลาร์ แตะที่ 101.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดปรับขึ้น 1.76 ดอลลาร์ ที่ 105.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน เนื่องจากเทรดเดอร์กังวลว่าเหตุประท้วงในอียิปต์อาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตและการขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลาง โดยคลองสุเอซและท่อส่งน้ำมันหลายแห่งทำให้อียิปต์เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญ
สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงมากที่สุดในปีนี้ ก็เป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันด้วย ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 10.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 มิ.ย. ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ประเมินว่าจะลดลง 3 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 223.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 92.2% ซึ่งเพิ่มขึ้น 2% จากสัปดาห์ก่อนหน้า
ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย. ปรับตัวลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ 343,000 ราย ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังกระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะช้าก็ตาม
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขว่างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนมิ.ย.ที่จะมีการรายงานในวันศุกร์นี้ เนื่องจากนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางสหรัฐส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการปรับตัวของตลาดแรงงาน