นายธนเสฎฐ์ ดีประเสริฐกุล นักวิเคราะห์จากบริษัท ดีเอส ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ราคายางพาราปรับตัวลงต่อ มองว่าทั้ง 3 ตลาดมีแนวโน้มคล้ายกัน ภาพรวม AFET และ TOCOM ยังลงได้อีก ส่วน SHFE หากหลุดกรอบ Sideway ด้านใดด้าน หนึ่งราคาปรับตัวไปไกล
TOCOM แนวต้าน 205 / 195 เยน แนวรับ 170/160 เยน (ต้านย่อย 190-185)
SHFE แนวต้าน 13000 / 12500 / 12000 หยวน แนวรับ 11300 / 11000 หยวน (ต้านย่อย 11800)
สาเหตุเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกมาหนุนราคา ถึงแม้ว่า WTI จะปรับตัวบวกอย่างรวดเร็วและรุนแรงในช่วงปลาย สัปดาห์ แต่ก็ไม่สามารถยืนระยะเหนือ 48 เพื่อขึ้นไปทดสอบ 50 เหรียญได้ ทำให้ต้องมีการย่อลงมา โดยช่วงที่ WTI ปรับตัวบวกขึ้น มา แต่ค่าเงินเยนยังแข็งค่า ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อตลาดนิคเคอิและ TOCOM ของญี่ปุ่น และเมื่อเช้าวานนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ยังลดลงต่อเนื่อง ทำให้เป็นแรงกดดันตลาดอีกทาง
และเมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนี PMI ภาคการผลิต ทั้งสหรัฐและประเทศแถบยุโรปออกมาไม่ค่อยดี ซึ่งน่าจะส่งผลต่อภาพรวม ตลาดหุ้นและตลาด Commodity Futures เอเชียอีกทาง
แนวต้าน 56.00 / 54.00 / 53.00 บาท แนวรับ 50.00 / 48.00 บาท
ส่วนปริมาณสัญญาซื้อขายคงค้าง(Open Interest) อยู่ที่ 1,937 สัญญา เพิ่มขึ้น 19 สัญญา
ภาวะการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3(RSS3) เดือน ราคาปิด ราคาปิด ปริมาณ ครั้งก่อน วันนี้ การซื้อขาย OCT 15 48.00 - 0 NOV 15 49.50 - 0 DEC 15 49.90 - 0 JAN 16 49.70 49.40 5 FEB 16 50.00 50.15 1 MAR 16 50.00 49.50 26 APR 16 50.00 49.50 53 รวม 85