นายธนเสฎฐ์ ดีประเสริฐกุล นักวิเคราะห์จากบริษัท ดีเอส ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดยางยังทรงๆ ซึมๆ เพราะตลาดเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กับตลาด TOCOM ประเทศญี่ปุ่นไม่ค่อยเทรดกัน คาดว่าคงจะรอผลเฟดและ BOJ ซึ่งอาจจะ กระทบต่อค่าเงินและราคาน้ำมัน WTI
ขณะที่ปัจจัยอื่นๆ เช่น สต็อกยางจีนก็ยังอยู่ในระดับสูง สต็อกยางไทยเองก็ค่อนข้างสูง ส่วนกรณี ครม.อนุมัติมาตรการให้ เงินในโครงการสร้างความเข้มแข็งแก่ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางนั้นมองว่าไม่ได้มีผลต่ออุปสงค์อุปทาน เป็นเพียงเงินกินเปล่าที่ ให้เกษตรกรในระยะสั้นๆ
"ระยะสั้นรอผลเฟดกับ BOJ ระยะยาวรอดูเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันดิบ อุปสงค์อุปทานโลก"
แนะนำ ถ้ารับความเสี่ยงได้สูง เล่น Swing ในกรอบ แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้น้อยให้รอความชัดเจนปัจจัยต่างๆแล้วรอ Break ด้านในด้านหนึ่ง
ประเมินทิศทาง AFET ราคา Sideway ในกรอบ 47-49 บาท บวก/ลบ ประมาณ 50 สตางค์
ส่วนปริมาณสัญญาซื้อขายคงค้าง(Open Interest) อยู่ที่ 2,211 สัญญา ลดลง 3 สัญญา
ภาวะการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3(RSS3) เดือน ราคาปิด ราคาปิด ปริมาณ ครั้งก่อน วันนี้ การซื้อขาย JAN 16 43.90 - 0 FEB 16 44.50 - 0 MAR 16 45.00 - 0 APR 16 45.95 46.05 5 MAY 16 47.20 47.00 34 JUN 16 46.95 47.00 8 JUL 16 47.30 47.40 10 รวม 57