นายธนเสฎฐ์ ดีประเสริฐกุล นักวิเคราะห์จากบริษัท ดีเอส ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ราคายางพาราตลาดล่วงหน้า ทั้ง 3 ตลาด ยังเคลื่อนไหวในกรอบ แต่ TOCOM ยังมีแรงกดดันจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าและการปรับตัวลงของตลาดนิคเคอิ ทำให้ ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารญี่ปุ่นต่อ
ส่วน SHFE ช่วงนี้การเคลื่อนไหวค่อนข้างแกว่งตัวออกด้านข้าง อาจจะต้องพิจารณาสต็อกยางจีนและรอติดตามแผน กระตุ้นเศรษฐกิจจีน และค่าเงินหยวนประกอบ
"ทั้งสองตลาดจะเป็นแรงกดดันตลาด AFET อีกทาง และช่วงกลางเดือนหน้า AFET จะควบรวมกับ TFEX อาจจะทำให้ นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรชะลอการลงทุน ประกอบกับตลาดต่างประเทศเริ่มเข้าสุ่ Long Weekend ทำให้ไม่มีแรงกระตุ้นจากตลาด ต่างประเทศอีกทาง"
อย่างไรก็ตาม ราคา WTI ปรับตัวมายืนเหนือ 38 เหรียญได้อีกครั้ง คาดว่าหากยืนระดับที่ 38-48 ได้ต่อเนื่อง ราคา อาจจะไปทดสอบแนวต้านที่ 44 เหรียญได้ โดยกรอบแนวรับจะอยู่ที่ 37.80 ในเบื้องต้น ส่วนราคา Gold Spot ยังแกว่งตัวใน กรอบ 1,080-1,050 ยังไม่สามารถผ่านด้านใดด้านหนึ่งไปได้
ประเมินแนวต้าน 50 บาท แนวรับ 48/46.8/45.6 บาท
ส่วนปริมาณสัญญาซื้อขายคงค้าง(Open Interest) อยู่ที่ 2,148 สัญญา ลดลง 21 สัญญา
ภาวะการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3(RSS3) เดือน ราคาปิด ราคาปิด ปริมาณ ครั้งก่อน วันนี้ การซื้อขาย JAN 16 43.50 42.50 15 FEB 16 45.20 44.20 4 MAR 16 46.00 45.00 5 APR 16 47.20 46.40 1 MAY 16 48.10 47.50 1 JUN 16 48.00 47.60 4 JUL 16 48.30 48.10 2 รวม 32