นายธนเสฎฐ์ ดีประเสริฐกุล นักวิเคราะห์จากบริษัท ดีเอส ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมราคายางพาราตลาด ล่วงหน้าปีนี้ แนวโน้มชัดเจนว่าเป็น Downtrend แต่ช่วงเดือนตุลาคม สัญญาณทางเทคนิคเหมือนจะจบขาลงและพยายามกลับตัวขึ้นมา แต่สุดท้ายไม่สามารถกลับตัวขึ้นมาได้ โดยมีหลายปัจจัยกดดัน ไม่ว่าจะเป็นราคา WTI ค่าเงินเยน รอความชัดเจนของเฟดในเรื่อง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภาพรวมเศรษฐกิจจีน และความไม่สงบด้านการเมืองต่างประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจภายในประเทศ และ นโยบายส่งเสริมจากภาครัฐ ซึ่งหลายๆปัจจัยนั้นกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะลงทุน อาจจะทำให้ต้องมีการสับเปลี่ยนหรือ ชะลอการลงทุนบ้างไม่มากก็น้อย
ปีหน้านี้มีประเด็นที่ต้องติดตาม คือ การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของเฟดจะปรับช่วงไหนและตลอดทั้งปี 2559 เฟดจะ ปรับดอกเบี้ยรวมทั้งหมดกี่เปอร์เซ็นต์ นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป และประเด็นเรื่องกรีซ และ ความไม่สงบในซีเรีย เศรษฐกิจญี่ปุ่น ว่าจะฟื้นตัวได้มากน้อยแค่ไหน หลังจากที่มีการทำ QE มาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างต่อ เนื่อง และราคาน้ำมันดิบจะไปในทิศทางใด เมื่อปีหน้าอิหร่านพร้อมเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อส่งออก และสหรัฐสามารถส่งออก น้ำมันดิบได้ในรอบสิบกว่าปี
"บริเวณแนว 48.0 เป็นแนวที่แข็งแกร่งใช้เป็นแนวรับและแนวต้านในระยะสั้น"
ส่วนปริมาณสัญญาซื้อขายคงค้าง(Open Interest) อยู่ที่ 1,720 สัญญา ลดลง 16 สัญญา
ภาวะการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3(RSS3) เดือน ราคาปิด ราคาปิด ปริมาณ ครั้งก่อน วันนี้ การซื้อขาย FEB 16 42.00 - 0 MAR 16 44.30 42.30 2 APR 16 45.55 - 0 MAY 16 46.40 46.00 1 JUN 16 47.00 46.25 5 JUL 16 47.00 46.00 8 AUG 16 47.05 45.70 6 รวม 22