นายธนเสฎฐ์ ดีประเสริฐกุล นักวิเคราะห์จากบริษัท ดีเอส ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ประเด็นที่ ครม.มีมติให้รับซื้อ ยางพาราจากเกษตรกรในราคานำตลาดมองว่าเป็นข่าวดีทางจิตวิทยาในระยะสั้น เพราะปริมาณการซื้อขายไม่ได้เพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ นัก
"วอลุ่มไม่สอดคล้องกับราคา และอย่างน้อย TOCOM ต้องชนแนวต้านย่อย 155 เยน และ 160 เยน ส่วนเซี่ยงไฮ้ต้อง รอเบรกกรอบหมื่นหยวนก่อน เพราะฉะนั้นภาพรวมก็ยังอาจจะอยู่ในลักษณะนี้ไปก่อน ระยะสั้นประมาณ 1-2 เดือน ถ้าไม่มีปัจจัยเข้า มาสนับสนุนหรือกดดัน ส่วนบ้านเราต้องยืนระยะเหนือ 48 กับ 50 บาทโดยไม่หลุดให้ได้อย่างน้อย 1 เดือนจึงจะจบขาลง"
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในระยะใกล้นี้คือ ตัวเลข GDP จีน และ CPI ของสหรัฐฯ
AFET มีแนวต้านที่ 48/50/52 บาท แนวรับ 45/44/42 บาท
กลยุทธ์การลงทุน ถ้ายังไม่มีสถานะให้รอทิศทางที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง ส่วนถ้ามีสถานะแล้วให้ล็อคกำไร ตามเป้า
ส่วนปริมาณสัญญาซื้อขายคงค้าง(Open Interest) อยู่ที่ 1,691 สัญญา ลดลง 11 สัญญา
ภาวะการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3(RSS3) เดือน ราคาปิด ราคาปิด ปริมาณ ครั้งก่อน วันนี้ การซื้อขาย FEB 16 41.20 43.25 8 MAR 16 41.30 43.50 8 APR 16 43.50 43.90 3 MAY 16 45.00 46.60 20 JUN 16 45.50 47.50 11 JUL 16 46.00 48.00 4 AUG 16 45.70 47.75 3 รวม 57