ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันร่วงปิดที่ 90.49$ หลังตุรกีถอนทหารจากอิรัก

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่ากองกำลังทหารตุรกีที่เคลื่อนกำลังพลเข้าสู่พื้นที่ตอนเหนือของอิรักนั้น ได้มุ่งหน้ากลับตุรกีแล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องภาวะติดขัดด้านการลำเลียงน้ำมันจากภูมิภาคแห่งนี้
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 14 เซนต์ ปิดที่ 90.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 88.88-92.88 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 4.25 เซนต์ ปิดที่ 2.5554 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลดลง 3.11 เซนต์ แตะระดับ 2.3043 ดอลลาร์ต่อแกลลอน  
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 90.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นายจามาล อัลดุลเลาะห์ เจ้าหน้าที่ชาวเคิร์ดกล่าวกับผู้สื่อข่าวของเอพีว่า กองกำลังทหารตุรกีได้ถอนกำลังออกจากอิรักแล้ว หลังจากที่บุกเข้าพื้นที่ตอนเหนือของอิรักเพื่อกวาดล้างกลุ่มกบฏชาวเคิร์ด ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รัฐบาลอิรักออกมาประกาศว่า ปฏิบัติการของทหารตุรกีอาจนำไปสู่ปัญหาที่ซับซ้อนและยากที่จะแก้ไข
          "ข่าวที่ว่ากองกำลังทหารตุรกรีบุกเข้าไปปราบปรามกบฏชาวเคิร์ดในอิรักนั้น เป็น 1 ในปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเกือบแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนพ.ย. ซึ่งต่อมาราคาเริ่มอ่อนตัวลงเนื่องจากข้อมูลที่ว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกมีอยู่มากพอ ในขณะที่ความต้องการเริ่มปรับตัวลดลง" นายแอดดิสัน อาร์มสตรอง นักวิเคราะห์จากทีเอฟเอส เอนเนอร์จี ฟิวเจอร์สกล่าว
          "ก่อนที่กองกำลังทหารตุรกีจะถอนกำลังออกจากพื้นที่ตอนเหนือของอิรักนั้น ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปกว่า 2 ดอลลาร์ในช่วงเช้า" นายอาร์มสตรองกล่าว
          เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปกว่า 60 เซนต์ หลังจากนายชากิบ เคลิล รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอัลจีเรียและเป็นผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานโอเปคในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า กล่าวว่า โอเปคอาจตัดสินใจเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในการประชุมเดือนก.พ. ถ้าหากตลาดต้องการน้ำมันดิบ
          ก่อนหน้านี้โอเปคประกาศคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2551 ไว้เท่าเดิมที่ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน อีกทั้งกล่าวว่า สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศที่เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงนั้น ทำให้แรงกดดันที่มีต่อราคาน้ำมันลดลงด้วย
          นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูรายงานน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าน้ำมันดิบสำรองจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล น้ำมันกลั่นสำรองจะลดลง 600,000 บาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองจะเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล