ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 13 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากกองกำลังทหารตุรกีเปิดฉากโจมตีทางอากาศในพื้นที่ตอนเหนือของอิรักเพื่อปราบกลุ่มกบฏชาวเคิร์ด นอกจากนี้ ราคาทองยังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 829.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 13.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 14.8350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 17.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.65 เซนต์ ปิดที่ 3.17 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,549.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 13.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 368.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.90 ดอลลาร์
ตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น 1.84 ดอลลาร์ แตะระดับ 95.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากมีข่าวว่าเครื่องบินรบของตุรกีทิ้งระเบิดใส่เป้าหมายที่เป็นกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดทางภาคเหนือของอิรัก และนับเป็นการบุกข้ามพรมแดนเป็นครั้งที่ 3 ในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากบริษัททาร์เก็ต คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายเดือนธ.ค.ลดลงเกินคาด ขณะที่บริษัทมาสเตอร์การด์ด อิงค์ เปิดเผยว่า ยอดใช้จ่ายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เงินสด และเช็ค ขยับขึ้นเพียง 3.6% เท่านั้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--