ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 65 เซนต์เมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) หลังจากมีข่าวว่า นางเบนาซีร์ บุตโต ผู้นำพรรคฝ่ายค้านและอดีตนายกรัฐมนตรีของปากีสถาน ถูกลอบสังหาร และหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่าน้ำมันดิบสำรองและน้ำมันฮีทติ้งออยล์สำรอง ร่วงลงเกินคาด
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดพุ่งขึ้น 65 เซนต์ แตะระดับ 96.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 97.79 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 3.91 เซนต์ ปิดที่ 2.6803 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง หลังจากมีข่าวว่านางบุตโตถูกลอบสังหารโดยมือระเบิดพลีชีพ ในระหว่างที่กำลังหาเสียงเลือกตั้งท่ามกลางผู้สนับสนุนหลายพันคน โดยเธอเสียชีวิตที่โรงพยาบาลราวาลพินดีที่ซึ่งเธอถูกนำตัวเข้ารับการรักษาหลังจากที่เธอถูกยิง
เหตุการณ์ลอบสังหารนางบุตโตนำไปสู่ภาวะขมึงเกลียวทางการเมืองภายในปากีสถาน โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้จัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในปากีสถาน ขณะที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประณามเหตุการณ์ลอบสังหารนางบุตโต พร้อมกับเรียกร้องให้นำตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้มารับโทษ
ก่อนหน้านี้ นางบุตโตเคยตกเป็นเป้าสังหารในวันที่ 19 ต.ค. เมื่อมือระเบิดพลีชีพก่อเหตุโจมตีขณะที่เธออยู่ในขบวนพาเหรดในเมืองการาจี หลังกลับจากการลี้ภัยทางการเมืองในต่างประเทศเป็นเวลา 8 ปี ส่งผลให้ มีผู้เสียชีวิตเกือบ 150 คน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 21 ธ.ค. ร่วงลง 3.3 ล้านบาร์เรล หรือ 1.1% แตะระดับ 293.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ คาดว่าจะลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล และอยู่ต่ำกว่าปีที่แล้วประมาณ 8.3%
ขณะที่น้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงดีเซลและฮีทติ้งออยล์ ลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 126.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 800,000 บาร์เรล และน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล สู่ระดับ 205.9 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล
นายเจมส์ คอร์ดิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทลิเบอร์ตี้ เทรดดิ้ง กรุ๊ป ในรัฐฟลอริด้ากล่าวว่า "ตลาดถูกปกคลุมด้วยปัจจัยทางการเมืองที่ร้อนแรง และข้อมูลน้ำมันดิบสำรองก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ดันราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในระหว่างวัน นอกจากนี้ การที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งทำให้นักลงทุนเหล่านี้แห่ซื้ออย่างคึกคัก"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--