ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 11 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ (28 ธ.ค.) จากปัจจัยด้านราคาน้ำมันที่พุ่งสูง ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของโลกภายหลังเหตุการณ์ลอบสังหารนางเบนาซีร์ บุตโต ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของปากีสถาน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 842.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 10.90 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 14.895 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไต่ขึ้น 0.077 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 3.0720 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,540.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 370.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.70
ราคาทองเดินหน้าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองว่าทองเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่เกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยการเสียชีวิตของนางบุตโตในเหตุระเบิดพลีชีพได้ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับความไร้เสถียรภาพในภูมิภาค
จอน แนดเลอร์ นักวิเคราห์อาวุโสจากคิทโก บุลเลียน ดีลเลอร์ กล่าวว่า ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ยังคงสร้างความวิตกกังวลให้ผู้คนจำนวนมาก โดยมีความเป็นไปได้ที่ทองจะพุ่งทำราคาสูงเป็นประวัติการณ์ส่งท้ายปีนี้
นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาทองและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ยังรวมถึง รายงานยอดซื้อบ้านใหม่ของสหรัฐที่ลดฮวบลงแตะระดับดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 12 ปี โดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐประจำเดือนพฤศจิกายนลดลงต่ำกว่ายอดจำหน่ายในเดือนตุลาคมถึงร้อยละ 9 ต่ำสุดนับแต่เดือนเมษายน ปี 2538 เป็นต้นมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--