ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบพุ่งปิดที่ 99.62$หลังแตะ 100$ระหว่างวัน

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 3, 2008 07:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นรุนแรง 3.64 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) โดยในระหว่างวันราคาทะยานขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากสถานการณ์รุนแรงในไนจีเรียทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานตึงตัว และจากการคาดการณ์ที่ว่าน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐจะลดลงอีก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดพุ่งขึ้น 3.64 ดอลลาร์ แตะระดับ 99.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์ในระหว่างวัน
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดเพิ่มขึ้น 9.1 เซนต์ แตะระดับ 2.74.4 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 7.81 เซนต์ ปิดที่ 2.5689 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 3.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายจิม ริทเทอร์บุช นักวิเคราะห์จากบริษัทกาเลนาในรัฐมลอิลลินอยส์กล่าวว่า "สถานการณ์รุนแรงในไนจีเรียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของทวีปแอฟริกาและการคาดการณ์ที่ว่าน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐจะลดลงอีก ถือเป็นป้จจัยสำคัญที่ดันราคาน้ำมันสูงขึ้นในวันนี้ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าตลาดเต็มไปด้วยนักเก็งกำไรที่แห่กันเข้าซื้ออย่างหนาแน่น และแทบจะไม่มีนักลงทุนที่เข้ามาเทขายเพื่อกดราคาลง"
รายงานระบุว่า กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนชาวไนจีเรียได้บุกเข้ายึดท่าเรือฮาร์คอร์ท ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมน้ำมันของไนจีเรีย พร้อมกับโจมตีสถานีตำรวจ 2 แห่งและบุกยึดล็อบบี้โรงแรมขนาดใหญ่ นอกจากนี้มีรายงานว่า ท่าเรือส่งออกน้ำมันหลายแห่งในเม็กซิโกต้องปิดการดำเนินงาน เนื่องจากสภาพแปรปรวนอย่างหนัก
นายจอห์น เกอร์เดส นักวิเคราะห์จากบริษัทซัน ทรัสต์ โรบินสัน ฮัมฟรีย์ กล่าวว่า "สถานการณ์รุนแรงในไนจีเรียก่อให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะติดขัดด้านการลำเลียงน้ำมัน เพราะเหตุจลาจลในไนจีเรียทำให้ผลผลิตน้ำมันภายในประเทศลดลงไปแล้วประมาณ 20% นับตั้งแต่ปี 2549"
นักลงทุนในตลาดน้ำมันตื่นตระหนกมากขึ้นเมื่อนางดานา เพริโน โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐประกาศว่า "ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช มีคำสั่งไม่ให้ระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ออกมาใช้ จนกว่าจะมีสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆเท่านั้น"
ปัจจุบันสหรัฐมีน้ำมันดิบสำรองทางยุทธศาสตร์อยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ต่อมาประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดี โดยมีการคาดการณ์ว่าน้ำมันดิบสำรองจะลดลงอีก 1.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งจะเป็นการลดลงติดต่อกัน 7 สัปดาห์
ส่วนในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 21 ธ.ค. น้ำมันดิบสำรองของสหรัฐร่วงลง 3.3 ล้านบาร์เรล หรือ 1.1% แตะระดับ 293.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ คาดว่าจะลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล และอยู่ต่ำกว่าปีที่แล้วประมาณ 8.3%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ