กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 4 ม.ค.ร่วงลง 6.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 282.8 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับลงเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล และเป็นการร่วงลงติดต่อกัน 8 สัปดาห์
ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรอง 5.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 213.1 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 9 มี.ค. 2550 และน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 128.7 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 100,000 บาร์เรล
ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.9% สู่ระดับ 91.3% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2%
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--