ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:ราคาน้ำมันดิบร่วงปิดที่ 95.67$หลังเบนซินสำรองพุ่ง

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าน้ำมันเบนซินสำรองปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งช่วยชดเชยน้ำมันดิบสำรองที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 66 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 95.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 95.45-97.97 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.29 เซนต์ ปิดที่ 2.6134 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 3.84 เซนต์ ปิดที่ 2.4355 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นักลงทุนคลายความกังวลเมื่อกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันเบนซินสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 4 ม.ค.พุ่งขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 213.1 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 9 มี.ค. 2550
          ขณะที่น้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 128.7 ล้านบาร์เรล  สูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 100,000 บาร์เรล นอกจากนี้  อัตราการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.9% สู่ระดับ 91.3% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2% 
          การเพิ่มขึ้นของน้ำมันเบนซินสำรองช่วยชดเชยน้ำมันดิบสำรองที่ร่วงลง 6.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 282.8  ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับลงเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล และเป็นการร่วงลงติดต่อกัน 8 สัปดาห์ 
          นายทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า "น้ำมันเบนซินสำรองที่เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมายนั้น ช่วยให้ราคาคลายความร้อนแรงลง ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้ำมันดิบสำรองของสหรัฐลดลงอย่างมากในรอบสัปดาห์ที่แล้วก็เนื่องมาจากโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในเขตกัลฟ์โคสต์พยายามลดปริมาณน้ำมันในคลังสำรองเพื่อให้มีผลต่อการชำระภาษีช่วงปลายปี"
          "นักลงทุนยังคงเข้าซื้อขายในตลาดน้ำมันอย่างคึกคักเนื่องจากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นเหนือระดับ 880 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์" นายอีแวนส์กล่าว
          กระทรวงพลังงานเปิดเผยในรายงานคาดการณ์ประจำเดือนว่า สหรัฐอาจเผชิญภาวะอุปทานน้ำมันขาดแคลนในปีนี้ แต่คาดว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลายลงในปีหน้า อีกทั้งคาดว่าราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ที่ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และคาดว่าราคาจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีหน้า