นักวิเคราะห์คาดสต็อคน้ำมันปาล์มในมาเลเซียจะลดลงอีก เหตุน้ำท่วมหนัก

          นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อคน้ำมันปาล์มของมาเลเซียจะยังคงปรับตัวลดลงในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า หลังจากปรับตัวลงในเดือนธ.ค. เนื่องจากเกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญหลายแห่งภายในประเทศ
          คณะกรรมการน้ำมันปาล์มของมาเลเซีย (MPOB) เปิดเผยว่า สต็อคน้ำมันปาล์มลดลง 7% สู่ระดับ 1.68 ล้านเมตริกตันในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2550 เนื่องจากความต้องการจากต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ผลผลิตภายในประเทศตกต่ำลง ทั้งนี้ โดยปรกติแล้ว ฤดูมรสุมในมาเลเซียจะเริ่มต้นในเดือนพ.ย.ไปจนถึงต้นเดือนมี.ค.ของปีถัดไป
          "เราเชื่อว่าสต็อคน้ำมันปาล์มของมาเลเซียจะปรับตัวลงอีกใน 1-2 เดือนข้างหน้า แม้ความต้องการปรับตัวลดลง และผลผลิตมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอีก" นายอัลวิน ไถ้ นักวิเคราะห์จากธนาคารโอเอสเค อินเวสท์เมนท์ แบงค์กล่าว
          MPOB ระบุว่า ผลผลิตน้ำมันปาล์ม ซึ่งรวมถึงน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มแปรรูป ร่วงลง 15.4% ในเดือนธ.ค. ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 9% 
          นายเบน ซานโตโซ นักวิเคราะห์จากบริษัทดีบีเอส วิคเกอร์ส รีเสิร์ช กล่าวว่า "คาดว่าผลผลิตน้ำมันปาล์มจะลดลงไปจนถึงเดือนก.พ. และคาดว่าจะค่อยๆเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไป คาดว่าความต้องการน้ำมันปาล์มจะเพิ่มขึ้นในเดือนม.ค.ก่อนที่จะถึงตรุษจีน"
          ในปี 2550 จีนเป็นผู้ซื้อน้ำมันปาล์มรายใหญ่สุดจากมาเลเซีย รองลงมาคือสหภาพยุโรป โดยจีนซึ่งมีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกได้นำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซียทั้งสิ้น 3.84 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 28% ของยอดนำเข้าทั้งหมด
          ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาน้ำมันปาล์มจะยังคงสูงขึ้นในปี 2551 เนื่องจากปริมาณเมล็ดน้ำมันที่ขาดแคลนจะส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานตึงตัว นอกจากนี้ คาดว่าการผลิตถั่วเหลืองซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์คู่แข่งที่สำคัญของน้ำมันปาล์ม จะตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องสภาพอากาศที่แปรปรวนและความสามารถในการผลิตที่ตกต่ำลงในหลายพื้นที่
          "เราคาดว่าราคาน้ำมันปาล์มในมาเลเซียมีแนวโน้มสูงขึ้นถ้าหากปริมาณน้ำมันพืชในตลาดโลกขาดแคลน เนื่องจากสภาพอากาศแบบ "ลา นีญ่า" และถ้าหากเกษตรกรในหลายพื้นที่หันไปปลูกธัญพืชแทนเมล็ดพืชที่ให้น้ำมัน" นายไอวี อึ้ง นักวิเคราะห์จากซีไอเอ็มบี อินเวสท์เมนท์ แบงค์กล่าว
          นอกจานกี้ นักวิเคระห์กล่าวว่า การเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองในบราซิลและอาร์เจนติน่าอาจชะลอตัวลงในเดือนก.พ.-พ.ค. เนื่องจากสภาพอากาศแบบ ลา นีญ่า สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน