ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ม.ค.) จากแรงซื้อของกลุ่มกองทุน และจากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ สถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ยิ่งทำให้เกิดแรงซื้อในตลาดทองคำเนื่องจากนักลงทุนมองว่าทองคำเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 903.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 5.70 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 917.90-893.10 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 16.425 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 3.5 เซนต์ ปิดที่ 3.3390 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินั่มเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,584.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 387.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 6.15 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า แรงซื้อของกลุ่มกองทุนและการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินอื่นๆ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองพุ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นเกือบ 32% ในปี 2550
ทั้งนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 29-30 ม.ค.ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันดอลลาร์ให้อ่อนตัวลง
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาทองมีแนวโน้มพุ่งขึ้นทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจเข้าซื้อมากขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--