ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 2.42 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) หลังจากคณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช และสภาคองเกรส ตกลงเห็นชอบให้ใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงมาตรการคืนภาษีให้กับครอบครัวชาวอเมริกัน และหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่าน้ำมันฮีทติ้งออยล์สำรองปรับตัวดลลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.00-89.52 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดพุ่งขึ้น 5.32 เซนต์ แตะระดับ 2.4763 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ปิดบวก 3.20 เซนต์ แตะระดับ 2.2828 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากเอลารอน เทรดดิ้งกล่าวว่า ราคาน้ำมันทะยานขึ้นทันทีที่มีข่าวว่าสภาคองเกรสและคณะทำงานของประธานาธิบดีบุช มีมติให้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงมาตรการคืนภาษีให้กับครอบครัวชาวอเมริกัน 600-1,200 ดอลลาร์ และครอบครัวที่มีบุตรก็จะได้รับคืนภาษีเพิ่มขึ้นด้วย โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค
"มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้นักลงทุนได้รับการปลดปล่อยจากความกังวล และส่งแรงซื้อเข้าหนุนสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคัก" นายไฟนน์กล่าว
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ้งสิ้นสุดวันที่ 18 ม.ค. เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 289.4 ล้านบาร์เรล
ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 11 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 5.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 220.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 ก.พ.ปี 2550 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม น้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ โดยลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 128.5 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.6% แตะระดับ 86.5%
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่า น้ำมันดิบสำรองจะปรับตัวขึ้น 2.31 ล้านบาร์เรล เนื่องจากยอดนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น และคาดว่าอัตราการกลั่นน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลงอีก
ขณะเดียวกันคาดว่า น้ำมันเบนซินสำรองจะเพิ่มขึ้น 1.45 ล้านบาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล จะลดลง 350,000 บาร์เรล เนื่องจากความต้องการน้ำมันฮีทติ้งออยล์ในฤดูหนาวพุ่งสูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--