ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันพุ่งปิดที่ 92.33$ หลัง FED ลดดอกเบี้ย

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 69 เซนต์เมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงอีก 0.50% ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าการลดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ จะสามารถยับยั้งเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยได้
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 69 เซนต์ ปิดที่ 92.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวขึ้น 0.45 เซนต์ ปิดที่ 2.334 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 0.75 เซนต์ ปิดที่ 2.5493 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 53 เซนต์ ปิดที่ 92.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นายจิม ริทเทอร์บุช ประธานบริษัทริทเทอร์บุช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ในมลรัฐอิลลินอยส์กล่าวว่า "ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนขานรับความมุ่งมั่นของเฟดและรัฐบาลสหรัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจและยับยั้งเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอย"
          ทั้งนี้ เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงอีก 0.50% สู่ระดับ 3.0% และลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงอีก 0.50% สู่ระดับ 3.5% เพื่อป้องกันเศรษฐกิจไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยคณะกรรมการเฟดคาดหวังว่า การดำเนินนโยบายครั้งล่าสุด ประกอบกับการดำเนินนโยบายก่อนหน้านี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตปานกลาง และจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงที่มีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้วย
          นายทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า ในระหว่างวันนั้น ราคาน้ำมันร่วงลงหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 25 ม.ค.พุ่งขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล
          "แต่เมื่อเฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอีกครั้ง ส่วนอีกปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมาจากข่าวที่ว่า แคนาดาประกาศปิดบ่อน้ำมันแห่งหนึ่งเป็นการชั่วคราว เนื่องจากอุณภูมิในพื้นที่ดังกล่าวต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง โดยบ่อน้ำมันแห่งนี้สามารถสูบน้ำมันได้ 315,000 บาร์เรลต่อวัน และการที่ข่าวดังกล่าวมีอิทธิพลต่อตลาดน้ำมันนิวยอร์กก็เพราะ แคนาดาเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันดิบรายใหญ่ของสหรัฐ" นายอีแวนส์กล่าว
          นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า อัตราการกลั่นน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่แล้วลดลง 1.5% แตะระดับ 85% และความต้องการน้ำมันเบนซินลดลง 24,000 บาร์เรลต่อวัน