ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์รูดแตะ 91.18$ หลังเฟดลดดบ.-คาดโอเปคตรึงการผลิต

          ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ (31 ม.ค.) แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้ง และหลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปค)ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นกำลังการผลิตน้ำมัน
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมี.ค. และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ร่วงลง 1.15 ดอลลาร์ สู่ระดับ 91.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่พุ่งขึ้น 69 เซนต์สหรัฐปิดในตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 92.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ทะเลเหนือส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 53 เซนต์สหรัฐ ปิดที่ 92.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ราคาน้ำมันนิวยอร์กอ่อนตัวลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวที่ว่าสต็อคน้ำมันดิบสำรองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน แต่หลังจากนั้นราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นทันทีที่เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.50% โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้สหรัฐรอดพ้นจากความเสี่ยงที่ฉุดเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งสหรัฐเป็นประเทศที่มีปริมาณการใช้พลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลก
         ความเคลื่อนไหวของเฟดในครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐรายงานว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐร่วงลงต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 0.6% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2550 ซึ่งร่วงลงจากที่พุ่งทะยานขึ้นแข็งแกร่ง 4.9% ในไตรมาสก่อนหน้านี้
          นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสสี่ของปี 2547 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่เลวร้ายต่อความต้องการใช้น้ำมันและราคาน้ำมัน
          "ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันดูเหมือนว่าจะมีความแปรปรวนจากตัวเลข GDP ของสหรัฐที่อ่อนแอ"  ไมค์ ฟิทซ์แพทริค นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกบอล กล่าวพร้อมทั้งเสริมว่า การปรับลดดอกเบี้ยน่าจะช่วยบรรเทาความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และอาจช่วยให้แนวโน้มอุปสงค์ด้านพลังงานปรับตัวสูงขึ้น
          ทั้งนี้ รัฐมนตรีจากกลุ่มประเทศโอเปคจะเข้าร่วมประชุมกันในกรุงเวียนนา ก่อนหน้าที่จะประชุมกันในวันศุกร์นี้ เพื่อหารือเรื่องกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งเป็นที่คาดกันว่า ที่ประชุมโอเปคจะยังคงตรึงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับเดิมต่อไป