ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) ขณะที่ราคาพลาตินัมพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากวิกฤติพลังงานในแอฟริกาใต้ที่รุนแรงขึ้นได้กระตุ้นให้นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนสัญญาพลาตินัมอย่างหนาแน่น ส่วนราคาโลหะเงินทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 928.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 933.2-924.9 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 16.995 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 23.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.15 เซนต์ ปิดที่ 3.2980 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,737.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 50.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 394.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.70 ดอลลาร์
ราคาทองคำและโลหะเงินได้รับปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังซ์สวิส ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าน้อยลงและไม่น่าดึงดูดใจ อีกทั้งทำให้นักลงทุนแห่การเข้าซื้อขายในตลาดทองคำมากขึ้น
ส่วนราคาพลาตินัมทะยานขึ้นแตะระดับสุงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากมีข่าวว่าเหมืองแร่หลายแห่งในแอฟริกาใต้ระงับการดำเนินงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเกิดวิกฤติพลังงานทั่วประเทศซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อคนงานเหมือนที่ทำงานอยู่ใต้ดิน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--