วิกฤตการณ์พลังงานในแอฟริกาใต้ หนุนราคาพลาตินัมทำนิวไฮอีกระลอก

ข่าวต่างประเทศ Tuesday February 5, 2008 09:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาพลาตินัมในตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรก เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าวิกฤตการณ์พลังงานในแอฟริกาใต้จะส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนพลาตินัมทั่วโลก โดยซึ่งพลาตินัมเป็นโลหะที่ใช้ทำเครื่องประดับและใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์
เมื่อคืนนี้ราคาพลาตินัมที่ตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้น 27.40 ดอลลาร์ แตะระดับ 1,797.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,803.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บริษัทเหมืองแร่หลายแห่งในแอฟริกาใต้ดำเนินการผลิตในอัตราที่ต่ำกว่าปกติมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเกิดวิกฤตการณ์พลังงานทั่วประเทศ ส่งผลให้อุตสาหกรรมเหมืองแร่ระส่ำระสายและทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ แม้เหมืองแร่หลายแห่งได้รับการจัดสรรพลังงานไฟฟ้าบ้างแล้วเมื่อวันศุกร์ แต่นักลงทุนวิตกกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดภาวะติดขัดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่
นายจอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากคิทโก บุลเลียน ในมอนทรีอัล กล่าวว่า "ภาวะติดขัดด้านการผลิตในเหมืองที่แอฟริกาใต้ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาพลาตินัมพุ่งสูงขึ้น โดยเหมือง 80% ในภูมิภาคแห่งนี้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์พลังงาน"
แอฟริกาใต้เป็นผู้ผลิตพลาตินัมรายใหญ่สุดของโลก และเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่อันดับ 2 รองจากจีน ทั้งนี้ ปัญหาด้านเครื่องจักร อุบัติเหตุ และการปิดซ่อมบำรุง เป็นสาเหตุที่ทำให้ผลผลิตทองคำและพลาตินัมในแอฟริกาใต้ลดลงในปีนี้
ในระยะ 4 ปีมานี้ ราคาพลาตินัมพุ่งขึ้นประมาณ 2 เท่า เนื่องจากปริมาณพลาตินัมสำรองทั่วโลกปรับตัวลดลง ซึ่งมีสาเหตุมาจากกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ต้องการพลาตินัมในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในเอเชียและยุโรปตะวันออก ทั้งนี้ ความต้องการพลาตินัมสำหรับผลิตอุปกรณ์ catalytic converters ในระบบรถยนต์ ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมาตรฐานด้านการแพร่กระจายก๊าซมีความเข้มงวดมากขึ้น สำนักข่าวเอพีรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ