ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:ราคาน้ำมันพุ่งปิดที่ $91.77 เหตุกังวลเรื่องอุปทาน

ข่าวต่างประเทศ Saturday February 9, 2008 07:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือระดับ 91 ดอลลาร์อีกครั้งเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) ต่อเนื่องจากที่เดินหน้าขึ้นในช่วงการซื้อขายก่อนหน้านี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานและความหวั่นเกรงว่าเศรษฐกิจถดถอยจะทำให้ความต้องการน้ำมันลดลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 3.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 91.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดกระโดดขึ้น 9.56 เซนต์ แตะระดับ 2.5541 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 8.94 เซนต์ ปิดที่ 2.3572 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 3.43 ดอลลาร์ แตะระดับ 91.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันเดินหน้าขึ้นจากรายงานที่ว่าการส่งออกน้ำมันของไนจีเรีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของแอฟริกาและเป็นผู้จัดหาน้ำมันรายหลักให้แก่สหรัฐ อาจลดลงมากถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยในประเทศที่เลวร้ายลง โดยไนจีเรียถูกปิดล้อมจากเหตุการสู้รบที่ยืดเยื้อโดยกลุ่มกบฏที่มุ่งจะทำลายโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมน้ำมันในประเทศ
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันยังมาจากข่าวที่ว่าการผลิตน้ำมันในทะเลเหนือลดลง 280,000 บาร์เรลต่อวันจากปัญหาทางเทคนิกที่แหล่งน้ำมันโททอล เอสเอ และข่าวที่ว่าผลผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียอาจร่วงลงในปีนี้เพราะแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่มีน้ำมันพร่องลง JBC Energy GmbH บรษัทวิจัยพลังงานในกรุงเวียนนากล่าว
ทั้งนี้ ศาลได้สั่งอายัดสินทรัพย์ทั่วโลกของบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซูเอลา มูลค่ากว่า 12 พันล้านดอลลาร์ ตามคำร้องของเอ็กซอน โมบิล คอร์ป ที่ประสบกับการขาดทุนจากแผนของประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ในการยึดกิจการพลังงานเป็นของรัฐบาล ได้มีผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากสร้างความกังวลว่าเวเนซูเอลาอาจใช้มาตรการตอบโต้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง
ขณะเดียวกัน นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหลีกเลี่ยงช่วงขาลงอย่างรุนแรงได้ "ผู้ค้าน้ำมันยังได้ขานรับข่าวที่ว่าสภาคองเกรสได้ผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการบริโภคและป้องกันเศรษฐกิจสหรัฐจากภาวะถดถอย" แอดดิสัน อาร์มสตรอง ผู้อำนวยการจาก TFS Energy Futures LLC ในคอนเนคติกัตกล่าว
ความกังวลว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะลดการผลิตเพื่อรักษาระดับราคาไม่ให้ลดลงต่ำเกินไปก็เป็นปัจจัยให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นด้วยเช่นกัน ราคาน้ำมันลดลงมามากกว่า 10% หลังจากที่พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 100.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อช่วงต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา และนักวิเคราะห์หลายท่านเชื่อว่าราคาอาจร่วงลงมาอีกถ้าสภาพเศรษฐกิจทรุดลง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจัยทางเทคนิกก็มีส่วนช่วยผลักดันราคาน้ำมันให้ขยับขึ้นด้วย โดยราคาน้ำมันร่วงลงเกือบแตะที่ระดับ 86 ดอลลาร์ เพื่อที่จะดีดตัวกลับขึ้นมาในช่วงนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ