ราคาทองคำและราคาพลาตินัมตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ก.พ.) เนื่องจากภาวะอุปทานตึงตัวซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์พลังงานที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ ซึ่งส่งผลกระทบถึงการผลิตในเหมืองหลายแห่งซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคแห่งนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 922.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 12.30 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 17.110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 33.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ดีดขึ้น 7 เซนต์ ปิดที่ 3.5240 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,884.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 32.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 440.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.40 ดอลลาร์
แอฟริกาใต้เป็นผู้ผลิตพลาตินัมรายใหญ่สุดของโลก และเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่อันดับ 2 รองจากจีน ทั้งนี้ ปัญหาด้านเครื่องจักร อุบัติเหตุ และการปิดซ่อมบำรุง เป็นสาเหตุทำให้ผลผลิตทองคำและพลาตินัมในแอฟริกาใต้ลดลงในปีที่แล้ว
ในระยะ 4 ปีมานี้ ราคาพลาตินัมพุ่งขึ้นประมาณ 2 เท่า เนื่องจากปริมาณพลาตินัมสำรองทั่วโลกปรับตัวลดลง ซึ่งมีสาเหตุมาจากกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ต้องการพลาตินัมในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในเอเชียและยุโรปตะวันออก นอกจากนี้ ความต้องการพลาตินัมสำหรับผลิตอุปกรณ์ catalytic converters ในระบบรถยนต์ ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมาตรฐานด้านการแพร่กระจายก๊าซมีความเข้มงวดมากขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--