ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT:ข้าวสาลีพุ่งแตะระดับสูงสุดหลังอุปทานตึงตัว

          สัญญาข้าวสาลีทะยานแตะระดับสูงสุดที่กว่า 11 ดอลลาร์ต่อบุชเชลเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าอุปทานข้าวสาลีที่ตึงตัวอาจส่งผลให้ราคาขนมปัง เส้นพาสต้า และอาหารประเภทอื่นๆปรับเพิ่มขึ้น
          ราคาข้าวสาลีทะยานกว่า 20% ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการอันแข็งแกร่งจากทั่วโลก และสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยซึ่งส่งผลให้ผลผลิตในแคนาดา อาร์เจนติน่า และอินเดีย ลดลง นอกจากนั้นการที่ผู้ส่งออกในสหรัฐต้องจำหน่ายข้าวสาลีด้วยอัตราที่รวดเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์เพื่อรองรับความต้องการของตลาดโลก ก็ยิ่งทำให้ปริมาณข้าวสาลีสำรองลดน้อยลง โดยเมื่อวันศุกร์ที่แล้วกระทรวงเกษตรสหรัฐคาดการณ์ว่าปริมาณข้าวสาลีสำรองของสหรัฐจะลดลงเหลือ 272 ล้านบุชเชลเมื่อสิ้นสุดเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
          "ตลาดข้าวสาลีไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน" เจสัน วาร์ด นักวิเคราะห์จาก Northstar Commodity กล่าว
          ทั้งนี้ สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค.ทะยานกว่า 60 เซนต์ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11.53 ดอลลาร์ต่อบุชเชล แต่หลังจากนั้นก็ถูกแรงเทขายทำกำไรขยับลงมา 45 เซนต์ ปิดที่ 10.48 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
          นอกจากนั้นความต้องการอันแข็งแกร่งจากประเทศที่กำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างจีนและอินเดียยังส่งผลให้ปริมาณข้าวสาลีลดลงอย่างต่อเนื่อง
          นักวิเคราะห์เชื่อว่า แม้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Kellogg Co., General Mills Inc. และ Kraft Foods Inc. จะป้องกันการผันผวนของราคาด้วยการทำสัญญาซื้อขายข้าวสาลีในระยะยาวไว้แล้ว แต่ในที่สุดราคาสินค้าดังกล่าวก็จะเพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้ผู้บริโภคเตรียมพร้อมรับมือไว้
          "สถานการณ์เช่นนี้จะส่งผลกระทบต่ออาหารแป้งแทบทุกประเภท ทั้งเส้นพาสต้า ขนมปัง ซีเรียล ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก" นายวาร์ดกล่าว
          ส่วนสัญญาพืชผลอื่นๆปรับลดลง โดยสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วง 13 เซนต์ ปิดที่ 13.26 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ในขณะที่สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 4.5 เซนต์ ปิดที่ 5.035 ดอลลาร์ต่อบุชเชล สำนักข่าวเอพีรายงาน