ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) โดยในระหว่างวันนั้นราคาพุ่งขึ้นทะลุแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,000 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังจากที่เฟดปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ราคาพลาตินัมปิดร่วงลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ปิดพุ่งขึ้น 8 ดอลลาร์ แตะระดับ 937.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากทะยานขึ้นทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,000 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดร่วงลง 14.30 ดอลลาร์ แตะระดับ 2,138.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 25.20 ดอลลาร์ แตะระดับ 17.760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดลดลง 1.50 เซนต์ แตะระดับ 3.7085 ดอลลาร์ต่อปอนด์
นายจอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากคิทโก บุลเลียนในเมืองมอนทรีอัล กล่าวว่า "ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 12% แล้วในปีนี้เพราะได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง"
"ส่วนอีกปัจจัยที่หนุนราคาทองคำมาจากการที่เฟดปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.3-2% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 1.8-2.5% เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัยและตลาดสินเชื่อ" นายเนดเลอร์กล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--