ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบร่วงปิด 98.23$ หลังสต็อคน้ำมันพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Friday February 22, 2008 06:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.47 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อคน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาด ขณะที่สต็อคน้ำมันเบนซินพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดร่วงลง 1.47 ดอลลาร์ แตะระดับ 98.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 6.32 เซนต์ ปิดที่ 2.522 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดลดลง 1.65 เซนต์ แตะระดับ 2.7381 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดร่วงลง 2.18 ดอลลาร์ แตะระดับ 96.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า "นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อคน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย และหลังจากราคาน้ำมันทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดที่เหนือ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจะทำให้ความต้องการน้ำมันลดลง ซึ่งจะทำให้สต็อคน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นด้วย"
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 15 ก.พ.พุ่งขึ้น 4.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 305.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 2.9 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อคน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ 230.3 ล้านบาร์เรล แต่สต็อคน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ ร่วงลง 4.5 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 122.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ยอดนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 365,000 บาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 10.102 ล้านบาร์เรลต่อวัน ยอดนำเข้าน้ำมันเบนซินลดลง 14,000 บาร์เรล แตะระดับ 827,000 บาร์เรลต่อวัน ปริมาณความต้องการน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นแตะระดับ 9.125 ล้านบาร์เรลต่อวัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ