ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:ข่าวตุรกีบุกอิรัก ดันราคาน้ำมันพุ่งปิดที่ 98.81$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างตุรกีกับอิรัก ประกอบกับปัจจัยด้านสภาพอากาศที่หนาวเย็นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ปิดร่วงลงเมื่อวานนี้
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 58 เซนต์ แตะระดับ 98.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล           
          ด้านสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 2.49 เซนต์ แตะระดับ 2.7630 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 76 เซนต์ แตะระดับ 97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเกือบตลอดทั้งวันจากข่าวกองทัพตุรกีบุกเข้ายังอิรักเพื่อโจมตีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ด ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลต่อฐานการผลิตและลำเลียงน้ำมันที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากตุรกีเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งน้ำมันและก๊าซ ขณะที่อิรักเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ให้กับกลุ่มประเทศในแถบยุโรป
          ทั้งนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวพุ่งขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในช่วงวันที่ 13-20 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะปรับตัวลดลง 1.47 ดอลลาร์เมื่อวานนี้หลังจากที่กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อคน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาด ขณะที่สต็อคน้ำมันเบนซินพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี 
          อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสต็อคน้ำมันกลั่นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์กลับร่วงลง 4.5 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 122.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นทั่วทั้งสหรัฐรวมถึงเหตุพายุหิมะที่ถล่มทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศยังทำให้ระดับความต้องการใช้น้ำมันฮีทติ้งออยล์ปรับตัวสูงขึ้น
          นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันนี้สามารถบ่งชี้ได้ว่าราคาน้ำมันยังมีโอกาสทะยานขึ้นอีกและส่อเค้าว่าจะวิ่งขึ้นไปแตะที่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้อีกครั้ง
           นายสตีเฟน ชอร์ค บรรณาธิการจดหมายข่าวตลาดน้ำมัน Schork Report ในวิลลาโนวา เพนซิลวาเนีย กล่าวว่า "โดยส่วนตัวผมไม่คิดว่าราคาน้ำมันจะขึ้นไปแตะที่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ต่างๆก็คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีความเป็นไปได้"