ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 948.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 8.40 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 928.90-953.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 3.95 เซนต์ แตะระดับ 3.7790 ดอลลาร์/ปอนด์ และสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 18.720 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 63.50 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 2,155.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 536.35 ดอลลาร์/ออนซ์ ทะยานขึ้น 11.65 ดอลลาร์
เจมส์ สตีล นักวิเคราะห์จาก HSBC ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า "การที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องทำให้นักลงทุนปลีกตัวออกจากตลาดปริวรรตเงินตราและหันเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างหนาแน่น นอกจากนี้ ราคาทองยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนี PPI ทั่วไปเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% และดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ของธอมสัน/ไอเอฟอาร์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3%"
"อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐสนับสนุนแผนการขายทองคำของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ" สตีลกล่าว
เดวิด แม็คคอร์มิก รมช.คลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะผลักดันให้สภาคองเกรสอนุมัติให้ไอเอ็มเอฟขายทองสำรองบางส่วน โดยเชื่อว่าการขายทองคำควบคู่ไปกับการใช้งบประมาณอย่างมีวินัยจะช่วยให้สถานะทางการเงินของไอเอ็มเอฟแข็งแกร่งและยั่งยืน
ทั้งนี้ การขายทองของไอเอ็มเอฟจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสสหรัฐและต้องได้รับมติเสียงข้างมาก 85 % ของคณะกรรมการประเทศสมาชิกของไอเอ็มเอฟ
เมื่อเดือนม.ค.ปีที่แล้ว คณะผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งได้เรียกร้องให้ไอเอ็มเอฟขายทอง 400 ตันจากที่สำรองไว้ เพื่อพยุงสถานะทางการเงินในอนาคต ซึ่งการขายทองคำครั้งล่าสุดของไอเอ็มเอฟมีขึ้นในเดือนธ.ค. 2542 และ เม.ย. 2543
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--