ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ดอลล์อ่อนหนุนราคาน้ำมันพุ่งทำนิวไฮ 102.59$

ข่าวต่างประเทศ Friday February 29, 2008 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 102 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (28 ก.พ.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงและความเป็นไปได้ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกทำให้นักลงทุนกรูกันเข้าซื้อขายในตลาดน้ำมันอย่างคึกคัก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 1.8 เซนต์ แตะระดับ 2.4957 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 7.45 เซนต์ แตะระดับ 2.8456 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 2.63 ดอลลาร์ แตะระดับ 100.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักลงทุนแห่กันเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคับคั่งนับตั้งแต่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังอ่อนแอลง โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ขยายตัวขึ้นเพียง 0.6% ซึ่งต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ และกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขชาวสหรัฐที่เข้าขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้ว พุ่งขึ้น 19,000 คน แตะระดับ 373,000 คน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนม.ค.เป็นต้นมา
"ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเช่นนี้ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง และทำให้นักลงทุนย้ายฐานการลงทุนออกจากปริวรรตเงินตราเพื่อเข้าไปลงทุนในตลาดที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ส่วนตัวผมมองว่าขณะนี้น้ำมันกำลังกลายเป็นเครื่องมือการลงทุนด้านการเงินไปแล้ว" ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากเอลารอน เทรดดิ้ง ในเมืองชิคาโก กล่าว
ขณะที่ จอห์น คิงส์ตัน นักวิเคราะห์จากบริษัทแพลทส์ กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5 มี.ค.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าโอเปคจะตรึงปริมาณการผลิตไว้เท่าเดิม
ส่วนข่าวความเคลื่อนไหวที่มีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันได้แก่ข่าวที่ว่า สหรัฐได้แสดงความไม่พอใจที่ซีเรียส่งเรือรบยูเอสเอส โคลไปยังพื้นที่นอกชายฝั่งเลบานอนเพื่อสนับสนุนเสถียรภาพในภูมิภาค และข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถดับไฟที่สถานีก๊าซแบคตันที่เชื่อมระหว่างอังกฤษ ยุโรป และแหล่งก๊าซในทะเลเหนือ ขณะที่บริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ออกแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทได้ปิดโรงงานที่เป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้แล้ว
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ราคาน้ำมันร่วงลง 1.24 ดอลลาร์ แตะระดับ 99.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 22 ก.พ.พุ่งขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 308.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.4 ล้านบาร์เรล
ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 232.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 400,000 บาร์เรล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ