ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOTอุปสงค์จีน-ดอลล์อ่อน หนุนถั่วเหลืองพุ่ง

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ก.พ.) สัญญาถั่วเหลืองพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความต้องการที่แข็งแกร่งจากจีนและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 
          เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.52 ดอลลาร์ต่อยูโร แม้จะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ แต่แนวโน้มในระยะยาวยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทั้งหมดกว่า 40% เมื่อเทียบเงินยูโร          
          อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์แทบทุกประเภทมีราคาถูกสำหรับนักลงทุนต่างชาติ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในช่วงที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง          
          ราคาถั่วเหลืองทะยานร่วม 15% ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพการเพาะปลูกที่ย่ำแย่ทั่วโลก รวมถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากจีนสำหรับใช้เป็นอาหารของคนและสัตว์ ในช่วงต้นเดือนก.พ. จีนประกาศว่าพายุหิมะได้ทำลายพืชผล Rapeseed ไปกว่า 40% ของทั้งประเทศ ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าจีนจะสั่งซื้อถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยในส่วนดังกล่าว ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศที่ซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐมากเป็นอันดับ 1 หรือปีละกว่า 25% ของถั่วเหลืองทั้งหมดในสหรัฐ   
          "จีนเป็นประเทศที่บริโภคถั่วเหลืองมากที่สุด" เจสัน วาร์ด นักวิเคราะห์จาก Northstar Commodity กล่าว "ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ประชากรจีนมีการขยายตัวกว่า 400 ล้านคน ส่งผลให้เกิดการบริโภคน้ำมันพืชมากขึ้น"
          สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค.ทะยาน 24 เซนต์ ปิดที่ 15.365 ดอลลาร์ต่อบุชเชล หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 15.39 ดอลลาร์ต่อบุชเชล  
          ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลงอย่างหนักถึง 79 เซนต์ ปิดที่ 10.86 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ในขณะที่สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับขึ้น 2.75 เซนต์ ปิดที่ 5.46 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
          ทั้งนี้ ราคาถั่วเหลืองทะยานเกือบ 80% เมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ จนถึงปัจจุบัน ผู้ส่งออกในสหรัฐจำหน่ายถั่วเหลืองไปแล้วกว่า 3 ใน 4 ของปริมาณทั้งหมดที่กระทรวงเกษตรคาดว่าจะจำหน่ายในปีการตลาดซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณถั่วเหลืองกำลังปรับตัวลดลง  และเกษตรกรจำเป็นต้องปลูกถั่วเหลืองให้มากกว่าปีที่แล้ว สำนักข่าวเอพีรายงาน