นักวิเคราะห์คาดทอง-พลาตินัมมาแรง เป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนที่สุดปีนี้

ข่าวต่างประเทศ Monday March 3, 2008 11:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นักวิเคราะห์ในสหรัฐกล่าวว่า ทองคำ โลหะเงิน พลาตินัม และพัลลาเดียม อาจเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากที่สุดในปีนี้ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจทำให้สกุลเงินในประเทศหลักๆของโลกอ่อนตัวลง ขณะที่ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรซบเซาลงด้วย
ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 980.98 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันนี้ ขณะที่ราคาโหละเงินเมื่อวันศุกร์ที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา พุ่งขึ้นแตะรดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023
รอน กูดิส นักวิเคราะห์จากอิควิเด็กซ์ โบรกเกอร์ กรุ๊ป ในรัฐนิวเจอร์ซีกล่าวว่า "ในช่วงที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงและอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นนั้น นักลงทุนใช้โลหะมีค่าเป็นอุปกรณ์ส่งเสริมอำนาจซื้อในขณะที่ดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ราคาทองคำ พลาตินัม และพัลลาเดียม อาจพุ่งขึ้นอย่างน้อย 30% ในปีนี้ หลังจากที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย มากกว่าที่จะมุ่งเน้นเรื่องควบคุมเงินเฟ้อ"
ขณะที่ ชิพ แฮสลัน นักวิเคราะห์จากเดลต้า โกลบอล แอดไวเซอร์ส ในรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า "เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาได้ว่าสถานการณ์ในตลาดการเงินจะเป็นเช่นไร แต่ที่เรามั่นใจคือราคาทองคำและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆจะปรับตัวขึ้นแน่นอนในปีนี้ ถ้าการลงทุนในตลาดปริวรรตเงินตราไม่น่าสนใจ ทำไมเราไม่ถือทองหรือพลาตินัมเอาไว้"
"โลหะมีค่าส่วนใหญ่ซื้อขายกันในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อดอลลาร์อ่อนตัวลงก็ทำให้ราคาซื้อของโลหะมีค่าปรับตัวลงด้วย ราคาทองพุ่งขึ้นถึง 36% นับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. พ.ศ.2550 ซึ่งเป็นช่วงที่เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกเพื่อสกัดกั้นเศรษฐกิจสหรัฐไม่ให้ถดถอย" กูดิสกล่าว
ส่วนพลาตินัม ซึ่งเป็นโลหะที่นิยมนำไปในใช้ทำเครื่องประดับ และ อุปกรณ์ catalytic converter ในรถยนต์ พุ่งขึ้น 42% และแตะที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,214.50 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยกูดิสคาดว่า ราคาพลาตินัมอาจจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในปีนี้ เว็บไซท์บลูมเบิร์กรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ