รมว.สมาชิกOPECประสานเสียงคาด OPEC ไม่เพิ่มเพดานผลิตในที่ประชุมพรุ่งนี้

ข่าวต่างประเทศ Tuesday March 4, 2008 12:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ก่อนที่การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของประเทศสมาชิกโอเปคได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันว่า โอเปคจะยังตรึงเพดานการผลิตไว้เท่าเดิมที่ 29.67 ล้านบาร์เรล/วัน
นายชอกรี กาเน็ม รมว.พลังงานลิเบียกล่าวว่า โอเปคมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและความสมดุลของอุปสงค์-อุปทาน แต่เขาคาดว่าโอเปคจะยังไม่ปรับเพิ่มเพดานการผลิตในการประชุมครั้งนี้
"แม้ว่าโอเปคจะมีความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจโลก แต่ผมยังไม่เห็นความจำเป็นที่โอเปคจะเพิ่มเพดานการผลิตจากปัจจุบันที่ 29.67 ล้านบาร์เรล/วัน และผมก็ยังไม่ได้ยินว่ามีรัฐมนตรีโอเปคคนใดพูดว่าจะมีการเพิ่มเพดานการผลิต 500,000 บาร์เรล/วันตามที่มีข่าวลือ นอกจากนี้ ผมมองว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในขณะนี้เป็นเพราะสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง" รมว.พลังงานลิเบียกล่าว
ด้านนายกาโล ชิริโบกา แซมบราโน รมว.พลังงานเอกวาดอร์กล่าวว่า โอเปคจะยังคงศึกษาข้อมูลต่างๆก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องเพดานการผลิต และแสดงความเห็นว่าราคาน้ำมันในตลาดที่พุ่งขึ้นในขณะนี้เป็นผลมาจากการเก็งกำไร
นายมูฮัมหมัด อัล-อาลีม รมว.พลังงานคูเวตกล่าวกับผู้สื่อข่าวของเคยูเอ็นเอ ว่า "โอเปคยังไม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มเพดานการผลิตในการประชุมที่กรุงเวียนนาวันพรุ่งนี้ แต่จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลให้รอบด้าน แต่ผมมั่นใจว่ายังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใดๆที่จะทำให้โอเปคเพิ่มเพดานการผลิต โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นในขณะนี้เกิดจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศ อาทิ ความขัดแย้งระหว่างเวเนซูเอลาและบริษัทเอ็กซอนโมบิลของสหรัฐ และสถานการณ์รุนแรงในไนจีเรีย
ขณะที่นายราฟาเอล รามิเรซ รมว.พลังงานเวเนซูเอลากล่าวว่า หากโอเปคยังไม่คิดที่จะเพิ่มเพดานการผลิต ก็ควรจะตรึงเพดานไว้เท่าเดิมก่อน แต่การจะปรับเพิ่มเพดานการผลิตนั้นคงยังไม่เกิดขึ้นในขณะนี้แน่นอน
"ผมเชื่อว่าปัจจัยที่ทำให้โอเปคตัดสินใจตรึงเพดานการผลิตมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของสหรัฐ ซึ่งทำให้ความต้องการพลังงานในสหรัฐลดลง และพิจารณาจากสต็อคน้ำมันในสหรัฐที่พุ่งขึ้นด้วย" รามิเรซกล่าว
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 22 ก.พ.พุ่งขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 308.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.4 ล้านบาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 232.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 400,000 บาร์เรล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ