ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 2.93 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมั้นจะเพิ่มปริมาณการผลิตในการประชุมวันที่ 5 มี.ค.ที่กรุงเวียนนา และการคาดการณ์ที่ว่าสต็อคน้ำมันดิบของสหรัฐจะยังคงปรับตัวสูงขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.93 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออย์ลส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 4.9 เซนต์ แตะระดับ 2.7918 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.รูดลง 14.29 เซนต์ ปิดที่ 2.5291 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดร่วงลง 2.96 ดอลลาร์ แตะระดับ 97.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
แอนโทนี ฮาฟฟ์ นักวิเคราะห์จากนิวเอจ ยูเอสเอ แอลแอลซี กล่าวว่า "นักลงทุนจำนวนมากยังคงคาดการณ์ว่าโอเปคจะเพิ่มเพดานการผลิตในการประชุมวันที่ 5 มี.ค.แม้รัฐมนตรีกลุ่มประเทศโอเปคออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โอเปคอาจจะไม่เพิ่มเพดานการผลิตก็ตาม"
นายชอกรี กาเน็ม รมว.พลังงานลิเบียกล่าวว่า โอเปคมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและความสมดุลของอุปสงค์-อุปทาน แต่เขาคาดว่าโอเปคจะยังไม่ปรับเพิ่มเพดานการผลิตในการประชุมครั้งนี้
"แม้ว่าโอเปคจะมีความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจโลก แต่ผมยังไม่เห็นความจำเป็นที่โอเปคจะเพิ่มเพดานการผลิตจากปัจจุบันที่ 29.67 ล้านบาร์เรล/วัน และผมก็ยังไม่ได้ยินว่ามีรัฐมนตรีโอเปคคนใดพูดว่าจะมีการเพิ่มเพดานการผลิต 500,000 บาร์เรล/วันตามที่มีข่าวลือ นอกจากนี้ ผมมองว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในขณะนี้เป็นเพราะสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง" รมว.พลังงานลิเบียกล่าว
ด้านนายมูฮัมหมัด อัล-อาลีม รมว.พลังงานคูเวตกล่าวกับผู้สื่อข่าวของเคยูเอ็นเอ ว่า "โอเปคยังไม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มเพดานการผลิตในการประชุมที่กรุงเวียนนา แต่จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลให้รอบด้าน แต่ผมมั่นใจว่ายังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใดๆที่จะทำให้โอเปคเพิ่มเพดานการผลิต โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นในขณะนี้เกิดจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศ อาทิ ความขัดแย้งระหว่างเวเนซูเอลาและบริษัทเอ็กซอนโมบิลของสหรัฐ และสถานการณ์รุนแรงในไนจีเรีย"
ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่กดราคาน้ำมันร่วงลงเมื่อคืนนี้มาจากนักวิเคราะห์ในโพลล์ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ที่คาดการณ์ว่าสต็อคน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอีก 2.3 ล้านบาร์เรล โดยกระทรวงพลังงานสหรัฐเตรียมเปิดเผยข้อมูลสต็อคน้ำมันประจำสัปดาห์ในคืนวันพุธ (ตามเวลาประเทศไทย)
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 22 ก.พ.พุ่งขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 308.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.4 ล้านบาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 232.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 400,000 บาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--