ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) ขานรับข่าวที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการร่วมมือกับธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารเพื่อบรรเทาภาวะตึงตัวในตลาด
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 976.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 19.763 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.20 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 9.5 เซนต์ ปิดที่ 3.7855 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 2,052.40 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 13.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 500.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.90 ดอลลาร์
เฟดประกาศเพิ่มวงเงินกู้สูงสุดถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้โครงการ Term Securities Lending Facility (TSLF) โดยจะให้กู้ตราสารหนี้ได้นาน 28 วัน แทนการกู้แบบข้ามคืนซึ่งใช้อยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ เฟดยังขยายวงเงินกู้ยืมผ่านสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราแบบชั่วคราว (swap line) กับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางสวิส โดยทำข้อตกลงกับอีซีบีในการเพิ่มวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจุบันที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ และข้อตกลงกับธนาคารกลางสวิสเพิ่มขึ้นสูงสุดไม่เกิน 6 พันล้านดอลลาร์จากปัจจุบันที่ 2 พันล้านดอลลาร์
คาร์ลอส ชานเซส นักวิเคราะห์ด้านโลหะมีค่าจากบริษัทซีเอ็มพี กรุ๊ปในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า "เฟดพยายามลดผลกระทบที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อและพยายามสกัดกั้นเศรษฐกิจสหรัฐไม่ให้ถดถอย ซึ่งความเคลื่อนไหวของเฟดครั้งล่าสุดนี้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดโลหะมีค่าด้วย ผมคาดว่าราคาทองมีแนวโน้มพุ่งขึ้นทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--