ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: วิตกสถานการณ์ไนจีเรีย ดันน้ำมันพุ่งปิดที่ 71.81$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 40 เซนต์เมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในไนจีเรีย ซึ่งปัจจัยลบดังกล่าวได้บดบังข้อมูลน้ำมันสำรองของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด 
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 เซนต์ ปิดที่ 71.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 1.99 เซนต์ ปิดที่ 2.2843 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ดีดขึ้น 2.11 เซนต์ ปิดที่ 2.0873 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.75 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ตลาดน้ำมันนิวยอร์กไม่ได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐที่ระบุว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 มิ.ย.พุ่งขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 354 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ของดาวโจนส์ นิวส์ไวร์คาดการณ์ว่า น้ำมันดิบสำรองจะปรับตัวลง 500,000 บาร์เรล 
          ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 204.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 700,000 บาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 121.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 บาร์เรล 
          ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลมาจากรายงานล่าสุดที่ว่า กลุ่มติดอาวุธได้เข้าโจมตีฐานขุดเจาะน้ำมันของบริษัทเชลล์ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ และจับตัวคนงานต่างชาติ 5 คนซึ่งประกอบด้วยชาวนิวซีแลนด์ 2 คน, ชาวออสเตรเลีย 1 คน, ชาวเวเนซูเอล่า 1 คน และชาวเลบานอน 1 คน ไปเป็นตัวประกัน        
          เจ้าหน้าที่ตำรวจไนจีเรียกำลังดำเนินการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่ขบวนการปลดปล่อยสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ (MEND) ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
          ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีมีชาวต่างชาติกว่า 100 คนในตะวันออกเฉียงใต้ของไนจีเรียที่ถูกลักพาตัวไป ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้สร้างความหวาดกลัวให้กับคนงานบริษัทน้ำมันหลายพันคน และทำให้ผลผลิตน้ำมันของไนจีเรียลดลงเกือบ 25%