ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 90 เซนต์เมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) ซึ่งเป็นการถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน หลังจากเจ้าหน้าที่ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ส่งสัญญาณว่าโอเปคอาจจะปรับเพิ่มการผลิต
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 90 เซนต์ ปิดที่ 74.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.รูดลง 3.61 เซนต์ ปิดที่ 2.0561 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 78 เซนต์ ปิดที่ 76.86 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
นายฮาซัน กาบาซาร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของกลุ่มโอเปคเปิดเผยกับสำนักข่าวดาวโจนส์ นิวส์วไสร์ ว่า "ราคาน้ำมันที่เหมาะสมสำหรับผู้ผลิตและผู้บริโภคควรจะอยู่ที่ระดับ 60-65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะถือเป็นการเปิดช่องทางการลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมัน เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในอีกหลายปีข้างหน้า และโอเปคจะดำเนินการจัดหาน้ำมันให้แก่ตลาดอย่างเพียงพอและในราคาที่เหมาะสม"
ทั้งนี้ กาบาซาร์ดกล่าวว่า ภาวะขาดแคลนน้ำมันเบนซินในสหรัฐซึ่งเป็นผลจากประสิทธิภาพในการกลั่นน้ำมันที่จำกัดนั้น ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งระบุว่าปัญหาทางการเมือง อาทิ ความขัดแย้งเรื่องโครงการนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตก และกรณีที่คนร้ายลักพาตัวคนงานบริษัทน้ำมันต่างชาติในไนจีเรีย ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย
"ผมประหลาดใจมากที่โอเปคเปลี่ยนแนวความคิด เพราะเมื่อก่อนนี้โอเปคย้ำเสมอว่าราคาน้ำมันในระดับปัจจุบันถือเป็นระดับที่เหมาะสมและยังยืนกรานว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกมีมากเกินพอ ขณะนี้สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่ผลผลิตน้ำมันของโอเปค" นายฟิล ไฟน์นักวิเคราะห์จากเอลารอน เทรดดิ้ง แสดงความเห็น
ขณะที่นายเททสึ อิโมริ นักวิเคราะห์จากบริษัทมิตซุย บัสซาน ฟิวเจอร์สกล่าวว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงรุนแรงเมื่อคืนนี้ คือข่าวที่ว่าบริษัทโทเทล เอสเอ กำลังเริ่มส่งออกน้ำมันในแองโกลาในปริมาณ 240,000 บาร์เรลต่อวันได้อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้โทเทล เอสเอได้ประกาศ "ภาวะสุดวิสัย" ที่ต้องลดปริมาณการผลิตจากบ่อน้ำมันในแองโกลลงสู่ระดับ 127,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่ผลิตได้ 240,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค
ภาวะสุดวิสัยเป็นส่วนหนึ่งที่ระบุในสัญญาซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอิสระจากข้อบังคับทางกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ ข้อพิพาทด้านแรงงาน ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และปัญหาทางเทคนิค
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--