ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:ปัญหาท่อส่งในทะเลเหนือ ดันน้ำมันพุ่งปิดที่ 74.15$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้น 22 เซนต์และปิดที่เหนือระดับ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการปิดท่อส่งน้ำมันในทะเลเหนือ และจากการคาดการณ์ที่ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐจะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลง หลังจากมีข่าวว่าโรงกลั่นและท่อส่งน้ำมันในสหรัฐกลับมาดำเนินการได้แล้ว
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 74.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 
          ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 24 เซนต์ ปิดที่ 77.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 
          ส่วนสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 5.5 เซนต์ ปิดที่ 2.0556 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 9.86 เซนต์ ปิดที่ 2.1262 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันในทะเลเหนือ โดยรายงานระบุว่าการผลิตน้ำมันและก๊าซในทะเลเหนืออาจได้รับผลกระทบเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ หลังจากสมอเรือลำหนึ่งสร้างความเสียหายต่อท่อส่งน้ำมันที่จำเป็นต้องใช้ในการส่งออกก๊าซมายังอังกฤษ
          ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า บ่อน้ำมันและก๊าซอาร์มาดาของบริษัทบีจีในทะเลเหนืออาจไม่สามารถผลิตเชื้อเพลิงได้หลังจากซ่อมบำรุงเสร็จในเดือนนี้ หากท่อส่งไม่ได้รับการซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
          ส่วนโรงกลั่นน้ำมันในเมืองคอฟเฟย์วิลลี รัฐแคนซัน ซึ่งมีกำลังการผลิต 108,000 บาร์เรลต่อวัน ยังคงปิดทำการ หลังจากเกิดน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม โรงกลั่นของบริษัทบีพีในเมืองวิทติ้ง รัฐอินเดียนา สามารถกลับมาผลิตน้ำมันได้ 250,000 บาร์เรลต่อวัน และท่อส่งน้ำมันที่เชื่อมต่อรัฐเท็กซัสและอิลลินอยส์ก็สามารถดำเนินการได้แล้วเช่นกัน
          กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (AAA) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ราคาค้าปลีกน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยทั่วประเทศปรับตัวลง 0.4 เซนต์ แตะระดับ 3.05 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ หลังจากราคาปรับตัวขึ้นมาตลอดฤดูใบไม้ผลิ อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานตึงตัว
          นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานน้ำมันสำรองซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธนี้ ส่วนในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น น้ำมันเบนซินสำรอง พุ่งขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 205.6 ล้านบาร์เรล แต่น้ำมันดิบสำรองร่วงลง 1.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 352.6 ล้านบาร์เรล