ภาวะตลาดทองคำ NYMEX: ราคาทองพุ่งปิดที่ 678.10$ ขานรับ GDP จีนแข็งแกร่ง

          ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้น 4.40 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัวขึ้นรวดเร็วเกินคาดในไตรมาส 2 และจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้ช่วยให้นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนทองคำอย่างคับคั่งด้วย
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำในตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 678.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 4.40  ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 672.20-678.50 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 13.375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 8.5 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 9.9 เซนต์ ปิดที่ 3.662 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,338.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 373.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 2 ดอลลาร์
          นายโธมัส ซี วิลลิส จูเนียร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเมซิรอว์ ไฟแนนเชียล แอลแอลซีกล่าวว่า "การที่เศรษฐกิจจีนขยายตัวขึ้นรวดเร็วเกินคาดย่อมหมายความว่า ความต้องการพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ในประเทศจีนจะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งข่าวนี้ได้กระตุ้นนักลงทุนให้เดินหน้าเข้าเทรดในตลาดโลหะมีค่ากันอย่างคึกคัก"
          สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 2 ของจีนขยายตัวขึ้น 11.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัว 11.1% เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ส่วนมูลค่า GDP ในไตรมาส 2 ขยายตัวขึ้นแตะระดับ 10.68 ล้านล้านหยวน
          "นอกจากนี้ ราคาโลหะมีค่ายังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากบริษัทโทเทลประกาศภาวะสุดวิสัยที่ต้องลดปริมาณการผลิตน้ำมันในแองโกลา เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค" นายวิลลิสกล่าว