ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: วิตกสถานการณ์ไนจีเรียดันน้ำมันพุ่งปิดที่ 72.81$

ข่าวต่างประเทศ Saturday July 7, 2007 10:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในไนจีเรีย ขณะที่การปิดโรงกลั่นน้ำมันในรัฐแคนซัสได้ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในภาคกลางของสหรัฐทะยานสูงขึ้นมาก 
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 2.53 เซนต์ ปิดที่ 2.3096 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ดีดขึ้น 0.78 เซนต์ ปิดที่ 2.0951 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ ปิดที่ 75.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาขายปลีกน้ำมันได้ปรับเพิ่มขึ้นในรอบกว่า 1 เดือนในวันศุกร์ หลังจากที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ขยับสูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์นี้ โดยก่อนหน้านี้ ราคาขายปลีกน้ำมันลดลงเล็กน้อยอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่แตะระดับสูงสุดอยู่ที่ 3.227 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วราคาขายปลีกน้ำมันจะมีการเปลี่ยนแปลงตามราคาในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ราคาในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าขยับขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการที่นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงและการลักพาเป็นตัวประกันในไนจีเรีย อีกทั้งหวั่นเกรงว่าการปิดโรงกลั่นภายในประเทศจะส่งผลต่อกำลังการผลิต
ทอม โคลซ่า หัวหน้านักวิเคราะห์แห่งศูนย์ข้อมูลราคาน้ำมันกล่าวว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าราคาจะขยับสูงขึ้นมากเท่าไหร่ สำหรับการปรับขึ้นราคาน้ำมันเมื่อคืนที่ผ่านมามีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นในรัฐต่างๆทางตอนกลางของประเทศ โดยอุปทานที่ลดลงเนื่องจากอุทกภัยและการปิดโรงกลั่นในคอฟฟีวิลล์ รัฐแคนซัส ซึ่งสามารถผลิตน้ำมันได้ 2.1 ล้านแกลลอนต่อวัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ