กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 6 ก.ค.ปรับตัวลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 352.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพล์ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์คาดการณ์ว่า น้ำมันดิบสำรองจะขยับลงเพียง 600,000 บาร์เรล
ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองพุ่งขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 205.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 640,000 บาร์เรล ส่วนน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล เพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล สู่ระดับ 122.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ อัตราการใช้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 90.2% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ต่อมาประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--