ศูนย์การศึกษาด้านพลังงานโลก (CGES) คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2550 หากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ไม่ปรับเพิ่มการผลิต
"CGES คาดว่าปริมาณน้ำมันสำรองทั่วโลกจะลดลงอีก 200 ล้านบาร์เรลในปีนี้ และคาดว่าราคาน้ำมันจะสูงขึ้นอีก ซึ่งไม่ได้เกิดจากปริมาณความต้องการที่สูงขึ้น แต่จะมาจากภาวะอุปทานตึงตัว"
การคาดการณ์ของ CGES มีขึ้นหลังจากนายมูฮัมหมัด อัล ฮัมลี ประธานโอเปคให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า "โอเปครู้สึกกังวลที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกันโอเปคมองว่าราคาน้ำมันที่เป็นธรรมทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้นั้น ควรจะอยู่ที่ระดับ 60-65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล"
อย่างไรก็ตาม โอเปคปฏิเสธข้อเรียกร้องที่ต้องการให้โอเปคเพิ่มผลิตน้ำมันก่อนการประชุมเดือนก.ย. โดยอ้างว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นนั้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาการเมืองระหว่างภูมิภาคและภาวะติดขัดที่เกิดขึ้นในโรงกลั่น อีกทั้งกล่าวว่าปริมาณน้ำมันสำรองในหลายประเทศยังมีอยู่เพียงพอ
ทั้งนี้ นางจูเลียน ลี หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านพลังงานของ CGES กล่าวกับผู้สื่อข่าวของธอมสัน ไฟแนนเชียลว่า "โอเปคได้แต่พูดว่ากังวลเรื่องราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น แต่ท้ายที่สุดโอเปคก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรที่เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ โอเปคยังอ้างว่าถ้าพวกเขาเพิ่มผลผลิตน้ำมัน ผลผลิตเหล่านี้ก็จะไปกระจุกอยู่ในคลังสำรองของหลายประเทศ เราจึงเห็นการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพงในขณะนี้ โอเปคควรจะเพิ่มผลผลิตน้ำมัน" สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--