ภาวะตลาดทองคำ NYMEX: ราคาทองดีดขึ้นปิด 684.80$ หลังดอลล์ร่วงเทียบยูโร

          ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 3.30 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร 
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 684.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 3.30 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 681.40-688.40 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 13.443 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.3 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนส.ค.ขยับลง 3.70 เซนต์ ปิดที่ 3.6195 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,333.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 8.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 369.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รูดลง 3.60 ดอลลาร์
          นายเจมส์ สตีล นักวิเคราะห์ด้านโลหะมีค่าจากธนาคารเอชเอสบีซีกล่าวว่า "การที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักในระยะนี้ โดยเฉพาะเมื่อร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรนั้น ทำให้นักลงทุนจำนวนมากส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนตลาดทองคำ หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เราคาดว่าราคาทองอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 680 ดอลลาร์ต่อออนซ์"
          "ปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างนักเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในธุรกิจปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพร์ม) ซึ่งความกังวลในเรื่องนี้ได้ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างรุนแรงด้วย" นายสตีลกล่าว
          นายสตีลกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ราคาโลหะทองแดงร่วงลงเนื่องจากสถานการณ์ประท้วงที่เหมืองทองแดงในหลายประเทศเริ่มคลี่คลายลงแล้ว หลังจากราคาทองแดงพุ่งขึ้นร้อนแรงเนื่องจากคนงานเหมืองคานซานชีในแซมเบีย และเหมืองโคเดลโคในชิลี ก่อเหตุประท้วงเพื่อเรียกร้องค่าแรงและสวัสดิการอื่นๆเพิ่มขึ้น