ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) จากข่าวที่ว่าโรงกลั่นในรัฐอินเดียน่าที่ปิดทำการซ่อมแซมชั่วคราวจะกลับมาทำการผลิตอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange ) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 72.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่ปรับตัวขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 2.2663 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 0.51 เซนต์ ปิดที่ 2.0957 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ ปิดที่ 76.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การปิดโรงกลั่นในคอฟฟีวิลล์ รัฐแคนซัส เมื่อวันที่ 1 ก.ค.เนื่องจากน้ำท่วม และการหยุดการผลิตของโรงกลั่นของบริษัทบีพีในเมืองไวท์ทิ่ง รัฐอินเดียน่า ทำให้ราคาน้ำมันในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐทะยานขึ้น ซึ่งส่งผลไปถึงราคาเฉลี่ยทั่วประเทศด้วย
ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยในสหรัฐปรับขึ้น 2.6 เซนต์ แตะ 3.026 ดอลลาร์ต่อแกลลอนเมื่อคืนนี้ จากการเปิดเผยของ AAA และ Oil Price Information Service โดยราคาน้ำมันเบนซินซึ่งมักจะเคลื่อนไหวตามตลาดซื้อขายล่วงหน้า ได้ขยับสูงขึ้น 7.7 เซนต์ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากลดลงอย่างต่อเนื่องจากราคาสูงสุดที่ 3.227 ดอลลาร์ต่อแกลลอนในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี บีพีได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันพุธว่า โรงกลั่นที่มีกำลังการผลิต 250,000 บาร์เรลต่อวันซึ่งหยุดดำเนินการไปชั่วคราวจะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งส่งผลให้สัญญาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลง 6.31 เซนต์ในการซื้อขายเมื่อวันพุธ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--